เนื้อร้อง เพลงลูกเสือ

 


“ราชสดุดี”
ข้าลูกเสือเชื้อไทยใจเคารพ
ขอน้อมนบบาทบงสุ์พระทรงศรี
พระบาทมงกุฎเกล้าฯ จอมเมาลี
ทรงปราณีก่อเกื้อลูกเสือมา
ทรงอุตส่าห์อบรมบ่นิสัย
ให้มีใจรักชาติศาสนา
ทรงสั่งสอน สรรพกิจ วิทยา
เป็นอาภาผ่องพทุธิวุฒิไกร
ดังดวงจันทราทิตย์ประสิทธิ์แสง
กระจ่างแจ้งแจ่มภพสบสมัย
พระคุณนี้จะสถิตสนิทใน
ดวงหทัยทวยราษฎร์ไม่คลาดเอย

 

“ลูกเสือไทย”
เหล่าลูกเสือ ของธีรราช
ทะนงองอาจ สืบชาติเชื้อพงศ์พันธ์
สมัครสมาน โดยมีสามัคคีมั่น
พวกเราจะร่วมรักกันจะผูกสัมพันธ์ตลอดกาล
มีจรรยา....รักษาชื่อ สร้างเกียรติระบือ
เลื่องลือต่อไปช้า-นาน ร่าเริงแจ่มใส
ใส่ใจรักให้ยืนนาน พวกเราล้วนชื่นบาน
เพราะกิจการลูกเสือไทย

 

“วชิราวุธรำลึก”
วชิราวุธพระมงกุฎเกล้า เจ้าประชา
ก่อกำเนิดลูกเสือมา ข้าเลื่อมใส
พวกเราลูกเสือ เชื้อชาติไทย
เทิดเกียรติพระองค์ไว้ ด้วยภักดี
ลูกเสือรำลึกนึกพระคุณ เทิดบูชา
ปฏิภาณรักกษัตริย์ ชาติศาสน์ศรี
มาเถิดลูกเสือ สร้างความดี
เพื่อศักดิ์ศรีลูกเสือไทย ดั่งใจปอง

 

“มาร์ชลูกเสือไทย”
จริยะและคุณธรรม น้อมนำเราเหล่าลูกเสือเชื้อไทย
รักชาติ ศาสนา องค์พระราชายิ่งดวงใจ
รักษาความดีลูกเสือ เอื้อเฟื้อคนทั่วไป
ระเบียบเพื่อพร้อมวินัย ยึดมั่นในสามัคคี
ญ. เราผูกพัน รวมกัน สมานไมตรี
ลูกเสือน้อมชีวี เพื่อศักดิ์ศรี ลูกเสือไทย
ช. เราพร้อมใจ ห่างให้ไกล จากยาเสพติด
เป็นมารชีวิต จงช่วยคิดทำลาย
(พร้อม)
เราจงหาญกล้า น้อมรักษา อธิปไตย
ปฏิภาณยิ่งใหญ่ เทิดไท้ องค์ราชันย์
เราทุกคนเทิดไว้ อยู่เหนือดวงใจ
เสียชีพอย่าเสียสัตย์ไซร้ ลูกเสือไทยเด่นทั้งโลกา

 

“ไตรรงค์ธงไทย”
ไตรรงค์ธงไทย ปลิวไสวสวยงามสง่า
สีแดงคือชาติ สีขาว ศาสนา
น้ำเงินหมายว่า พระมหากษัตริย์ พระมหากษัตริย์

 

“เพื่อนลูกเสือ”
เพื่อนลูกเสือ ยิ้มทุกเมื่อ แสนสุขสันต์
แม้นมิพบ ประสบกัน สายสัมพันธ์คือจิตใจ
เพื่อนลูกเสือ ยิ้มทุกเมื่อไม่หวั่นไหว
หลอมความรักรวมจิตใจพร้อมมอบให้กันทุกครา
เรื่องงานหนักเบาลูกเสือเราเก่งหนักหนา
ไม่เคยเกียจคร้านงานทุกงานเราศรัทธา
ร่วมมือกันทุกเมื่อ ช่วยเหลือกันทุกครา
ลูกเสือนี้ “มีน้ำใจ”
เพื่อนลูกเสือ สังคมเชื่อ ลูกเสือไทย
“น้อมนับถือ ความซื่อสัตย์” ไว้
ผองชาวไทย.........จึงนิยม

 

“ในหมู่ลูกเสือ”
ในหมู่ลูกเสือ เมื่อรวมเราอยู่ ต่างคนต่างรู้กันดี ว่าหน้าที่ทุกอย่าง
ต้องช่วยกันทำ ทำไม่เว้นว่างงานทุกอย่าง งานทุกอย่าง จะเสร็จโดยง่ายดาย

 

“ลูกเสือจับมือ”
ลูกเสือเขาไม่จับมือขวา ยื่นซ้ายมาจับมือกันมั่นมือขวาใช้เคารพกัน (ซ้ำ)
ยื่นซ้ายออกมาพลันจับมือจับมือ จับมือนั้นหมายถึงมิตร เหมือนญาติสนิทควรคิดยึดถือ ยิ้มด้วยเมื่อการจับมือ (ซ้ำ)
เพราะพวกเราคือลูกเสือด้วยกัน

 

“พี่น้องลูกเสือ”
เราคือพี่น้อง ลูกเสือชาติไทย ดีใจที่เราได้มาเจอะกัน มาพบกัน
รักเรามั่นตรึงจิต เป็นนิมิตดีเลิศช่างประเสริฐดีแท้ รักไม่เปลี่ยนแปร ผูกใจสัมพันธ์
เราลูกเสือไทย รักชาติไทย (ซ้ำ) เราต่างร่วมใจสามัคคี (ซ้ำ)
เพื่อชาติไทยเรา (ซ้ำ) จะได้รุ่งโรจน์สดศรี (ซ้ำ)
ร่วมรักร่วมใจร่วมสามัคคี มีไมตรีเป็นมิตรที่ดีทั่วกัน
พระมงกุฎเกล้าท่านทรงประธาน (ซ้ำ) หน้าที่ของเรานั้นบริการ (ซ้ำ)
พระมงกุฎเกล้าท่านทรงประธานหน้าที่ของเรานั้นบริการ

 

“อยู่แห่งไหน”
อยู่ที่ไหน เหนือ กลาง ใต้
อีสาน......... หรือที่ใด
จงพร้อมจิตพร้อมใจ ร่วมกันพัฒนา
เรามารักกันไว้ ๆ ๆ

 

“ลูกเสือร่วมใจ”
จากแดนไกลเหนือใต้อีสาน
เชื่อมผูกพันสำราญในดวงฤทัย
ขอให้จงโชคดี อย่าให้มีเภทภัย
หวังสิ่งใด ขอให้สมปรารถนา
(หล่า ลา ลา ..................................)

 

“มาร้องเพลงกัน”
มาเถิดเรามา มาร่วมร้องเพลงกัน พวกเราทั้งนั้นลุกขึ้นพลันทันที
แล้วเราก็หันหน้ามาหากัน แล้วยิ้มให้กันตบมือ 3 ที
(ป๊าบ ป๊าบ ป๊าบ)
เสร็จพลันแล้วก็หันกลับมา สนุกนักหนา..............
ส่ายเอว 5 ที เอ้า 1 2 3 4 5

 

“เดินทางไกล”
เกิดมาเป็นคน ต้องตรงเวลา อย่ามัวรอช้าเร่งรีบมาเร็วไว ร่วมเดินทางไกล
จะไกลเพียงใด พวกเราเดินไปแล้วสุขใจจริง
เริงสำราญเราเบิกบานเดินทางไกล ลืมทุกข์ไปเราสุขใจจริงๆ

 

“ค่ายลูกเสือลั่น”
แดดส่องฟ้าเป็นสัญญาวันใหม่
พวกเราแจ่มใส เมื่อมาอยู่ค่ายด้วยกัน
ต่างคนต่างรู้ในหมู่เรานั้น
ทุกข์สุขร่วมกันเพื่อสร้างสรรค์ชาติไทย
ตื่นเถิดหนาอายนกกามันบ้าง
อยู่ค่ายกว้างขวางแล้วเราสนุกสุขศรี
ไม่มีแม่อยู่ คุณครูคนดี ช่วยหนาวิธีผจญภัยนานา
เสื้อผ้านี้มีชุดเดียวเข้าค่าย
ลำบากยากกายพวกเราไม่เคยหน่ายแหนง
มีค่ายเหมือนบ้าน มีป่าเป็นกำแพง
พวกเราร่วมแรงร่วมใจพัฒนา
โลกจะหมองครองน้ำตายามเศร้า
แบ่งกันว่าเขา แล้วเราเศร้าจริงใจฉัน
ค่ายมีน้ำใจใสแจ่มทุกวัน
รักค่ายไหมนั่น เมื่อค่ายลั่นความจริง

 

“อยากเข้าค่าย”
อยากนักเข้าค่าย อยากจะได้คำชม บุกโคลนลุยตม ไม่ร้าวระบมหรือหน่าย
อดทนยิ่งเอย ไม่เคยบ่นลา ทั้งชีวามอบให้ ไม่ขอทำผิดไม่ติดสงสัย มอบไว้ดวงใจดีกว่า

 

“นอนดีดี”
อยู่บ้านนอนดีดี ไม่ว่าดีมาเข้าอบรม ทีแรกทำใจระทม มาอบรมไม่สนใจ นานนานไป
พอเห็นคุณค่า ศรัทธาของลูกเสือไทย ลูกเสือนั้นมีระเบียบและวินัย

เหนื่อยยากนั้นเราไม่หวั่น เราช่วยเหลือกันดังเจตนา

 

“สัญญาณนกหวีด”
ยาวหนึ่งครั้ง……. เราฟังได้ความว่าหยุด
เป่ายาวเป็นชุด....... เราต้องรีบรุดไปต่อไป
สั้นติดต่อกัน……. เราพลันเข้าแถวทันใด
สั้นยาวนั้นไซร้..... เรารีบไปเพราะมีเหตุการณ์
นายหมู่มานี่…… ฟังซีสั้นสามยาวหนึ่ง
ลูกเสือรำพึงจดจำคำนึง.... นี่คือสัญญาณ

 

“ทิศ”
ทิศทั้งแปดทิศ ขอจงคิด จำให้เคยชิน
อุดร ตรงข้ามทักษิณ บูรพา ประจิม จำไว้
อิสาน ตรง หรดี ท่องอีกที จำให้ขึ้นใจ
พายัพ นั้นอยู่ทางไหน ตรงข้ามไปคือ อาคเนย์ (ซ้ำ)

 

“เรร่อน ชินตา”
เรร่อน เรร่อน ชินตา ชินตา เรร่อน เรร่อน
เรร่อน เรร่อน ชินตา ชินตา เรร่อน เรร่อน
เรามาอยู่ค่ายด้วยกัน ด้วยกันทุกวันทุกคืน
เรามาอยู่ค่ายด้วยกัน ด้วยกัน ทุกวัน ทุกคืน

 

“ฝึกด้วยกัน”
ฝึกมาฝึกมาฝึก ฝึกมาฝึกด้วยคน (ซ้ำ)
พวกเราลูกเสือชาติไทย ต้องมาร่วมใจมาช่วยกันฝึก

 

“วันอยู่ค่าย”
วันนี้รื่นเริง สำราญสุขสันต์อุรา พวกเราต่างมา มาอยู่ค่ายพักแรม เราร้องเรารำ
ยามเมื่อมาพักแรม สบายคล้ายคืนจันทร์แจ่ม พักแรม สุขสันต์อุรา (ซ้ำ)

 

“เที่ยวทะเล”
ไปเที่ยวทะเล ไปเที่ยวทะเล อย่ามัวโอ้เอ้ ไปเที่ยวทะเล กันเถิดเอย
ไปซื้อปลาบู่ ไปดูเรือใบ มาซิเร็วไว ไปเที่ยวทะเล ดูเรือตังเกกัน แล่นออกหาปลา

 

“แล่นเรือใบ”
แสงอรุณเบิกฟ้า ท้องนภาสดใส
สกุณาบินไกล แล่นเรือใบหาปลา
แล่นไปฝั่งซ้าย แล้วย้ายมาฝั่งขวา
ส่ายเอวไปมา เพลินอุราน่าชม

 

“ทะเลสวย”
โอ้ทะเลแสนงาม.... ฟ้าสีครามสดใส
มองเห็นเรือใบ...... แล่นอยู่ในทะเล
หาดทรายงามเห็นปู……. ดูซิดูหมู่ปลา
กุ้งหอยนานา....... อยู่ในท้องทะเล

 

“เดี๋ยวเดียว”
เดี๋ยวเดียว เจอะกันประเดี๋ยวเดียว สนิทสนมกลมเกลียว เดี๋ยวเดียวก็รักกันได้
แปลกใจเรารักกันได้อย่างไร (ซ้ำ) เรารักกันได้ เพราะลูกเสืออย่างเดียว

 

“ยินดีที่มาพบกัน”
วันนี้ยินดีที่เราได้มาพบกัน (ซ้ำ) ยินดี ยินดี ยินดี มาเถิดมาเรามาร่วมสนุก
ปลดเปลื้องความทุกข์ให้มันสิ้นไป มาเถิดมาเรามา ร่วมจิตช่วยกันคิดทำให้การลูกเสือเจริญ

 

“ยินดีที่รู้จัก”
ยินดีที่รู้จัก เพื่อนที่รักขอเชิญร่วมจิต
เรารักกันฉันมิตร รักสนิทเหมือนพี่น้องกัน
ยินดีที่รู้จัก เพื่อนรักขอร่วมใจมั่น
ขอให้ผูกสัมพันธ์ ร่วมรักกันให้นานเถิดเอย

 

“ยิ้ม ยิ้ม ยิ้ม”
ยิ้ม ยิ้ม ยิ้ม ยิ้มาหน้าตาหวานชื่น ยิ้มนิดชีวิตยั่งยืน สดชื่นอุราอย่ามัวรอ (ซ้ำ)
มายิ้มกันหนอเพื่อนเอย
ร่าเริง ร่าเริง เหล่าบันเทิงใจ หันหน้ากันไปทางไหน เขาก็ยิ้ม เราก็ยิ้ม (ซ้ำ)
ยิ้มแย้มเปรมปรีดิ์สดชื่นอุรา

 

“พรวนดิน”
พรวนดินกันเสียให้หมด จะปลูกข้าวโพดสาลี
โอ้เจ้าดวงชีวา เจ้าไม่เมตตาตัวพี่
ข้าวโพดสาลี ข้าวโพดสาลี ป่านฉะนี้จะโรยรา (ซ้ำ)

 

“ตรงต่อเวลา”
ตรงต่อเวลา พวกเราต้องมาให้ตรงเวลา
ตรง ตรง ตรงเวลา พวกเราต้องมาให้ตรงเวลา
เราเกิดมาเป็นคน ต้องหมั่นฝึกตนให้ตรงเวลา
วันคืนไม่คอยท่า วันเวลาไม่เคยคอยใคร (ซ้ำ)

 

“รอ”
รอฉันรอเธออยู่ แต่ไม่รู้เธออยู่หนใด เธอจะมาเธอจะมาเมื่อใด นัดกันไว้ทำไมไม่มา
ฉันเป็นห่วง ฉันเป็นห่วงตัวเธอ ใจฉันเก้อ ชะเง้อคอยหา นัดไว้ทำไมไม่มา โอ้เธอจ๋า

อย่าช้า เร็วหน่อย รีบหน่อย ๆๆ เร่งหน่อยๆๆ

 

“ตบมือ 1 2 345”
ตบมือ 5 ครั้ง (1 2 345) ให้มันดังกว่านี้ (1 2 345)
กระโดดข้างหน้า 5 ที (1 2 345) แล้วกลับมาที่เดิม (1 2 345)
กระโดดไปข้างซ้าย (1 2 345) แล้วย้ายมาข้างขวา (1 2 345)
ชื่นในอุราเมื่อเรามาเจอกัน
ไม่รู้เป็นอย่าง ไม่รู้เป็นอย่างไร ชอบคนมีตังค์

 

“กระโดด”
กระโดด กระโดด กระโดด กระโดดเพื่อสร้างพลัง กำลังให้แก่พวกเรา
ลา ลั้น หล่า หล่า ลั่น ลา ....... (ซ้ำ)

 

“จำ”
จำ จ้ำ จำ บอกให้จำทำใมกลับลืม
ลืม ลื้ม ลืม บอกให้ลืมทำไมกลับจำ
แหมมันน่าขำบอกให้จำทำไมกลับลืม
แหมมันน่าขำบอกให้ลืมทำไมกลับจำ

 

“ลูกช้าง”
ลูกช้างทำไมจึงตัวใหญ่ ลูกไก่ทำไมจึงตัวเล็ก (ซ้ำ)
คิด แล้วยิ่งปวดหัวคิด (ซ้ำ) ก็ยังคิดไม่ออก
คิด แล้วยิ่งปวดหัวคิด (ซ้ำ) ก็ยังคิดไม่ออก
ลา ลา....................................

 

“โตงเตง”
โตง โตง โตง นุ่งกระโปรงสีแดงสีแดง
เตง เตง เตง นุ่งกางเกงสีแดงสีแดง
สีแดงคือแสงตะวัน (ซ้ำ)
สีใครสีมันสีกันให้แรงแรง

 

“ว่าว”
ว่าวที่เราชอบเล่น เช้าเย็นเราเคยเล่นว่าว
ว่าวน้อยที่ลอยสู่ดาว (ซ้ำ)
สองมือเราสาวเมื่อว่าวติดลม (ซ้ำ)
โบกสะบัดสวิส สวาส เวียนวน (ซ้ำ)
มองดูสับสนอยู่บนเมฆา (ซ้ำ)

 

“วน”
วน วน วน พวกเราวนให้มันรอบตัว (ซ้ำ) จับมือ จับแขน จับไหล่ (ซ้ำ)
พอจับที่ใจ อุ๊ยกลัวๆ

 

“เรือแจว เรือพาย”
แจว แจว แจว แล้วก็ พาย พาย พาย พาย พาย แล้วก็ แจว แจว แจว แสนสนุก
สุขสบายเมื่อลงเรือพายเรือแจว
พาย พาย พาย แล้วก็ แจว แจว แจว แล้วก็ พาย พาย พาย แสนสนุกสุขสบายเมื่อลงเรือพายเรือแจว

 

“เรือแจว”
แจวแล้วมาแจวจ้ำจึก น้ำนิ่งไหลลึกนึกถึงคนแจว แจวเรือจะไปของ (ซ้ำ)
ขอเชิญนวลน้องลุกขึ้นมาแจว (ขอเชิญหมู่สอง ลุกขึ้นมาแจว)

 

“สวัสดี”
สวัสดี สวัสดี วันนี้เรามาพบกัน เธอกับฉัน พบกันสวัสดี

 

“รถตุ๊กตุ๊ก”
ขับรถตุ๊กตุ๊ก บรรทุกถ่าน รถขึ้นสะพานขึ้นสะพาน เลยชักกระตุก ชักกระตุก
ชักกระตุก ชักกระตุก ......... ชักกระตุก ชักกระตุก

 

“มดแดง”
มดแดงขบแข้งขบขา ขบเสื้อขบผ้า ตุ้งแฉ่งๆ
มดแดงมันเต้นระบำ เลยหัวขมำ ตุ้งแฉ่งๆ

 

“นกพิราบ”
พรับพรึบพรึบ พรึบพรับขยับบิน (ซ้ำ) ฝูงนกพิราบขาวดำและเทา น่ารักจริงนา
บนเวียนวนอยู่บนหลังคา บินไปเกาะตามกิ่งพฤกษา ไซร้ปีกหางกันอยู่ไปมา (ซ้ำ)
แสงแดดจ้าพากันคืนรัง

 

“เป็ด”
ก๊าบ ก๊าบ ก๊าบ เป็ดอาบน้ำในคลอง
ตาก็จ้องแลมอง เพราะในคลองมีหอยปูปลา

 

“เป็ด”
ยามเมื่อเป็ดมันเดินไป มองแล้วไม่น่าดูเลย
จำไว้เถิดเพื่อนเอ๋ย เอ๋ย จงอย่าเดินให้เหมือนเป็ด

 

“ช้าง”
ช้าง ช้าง ช้าง น้องเคยเห็นช้างหรือเปล่า ช้างมันตัวโตไม่เบา จมูกมันยาว
เรียกว่างวง สองเคี้ยวใต้งวงเรียกว่างา มีหูมีตาหางยาว

 

“หมู”
หมู หมู หมู น้องเคยเห็นหมูหรือเปล่า หมูมันตัวอ้วนไม่เบา ผัดเผ็ดใบกระเพรา
อร่อยดี (ซ้ำ) กินแล้วอ้วนพีแข็งแรง

 

“ลิง”
เจี๊ยก เจี๊ยก เจี๊ยก เป็นเสียงเรียกของลิง
ลิงมันไม่อยู่นิ่ง มันชอบวิ่งกระโดดไปมา
เจี๊ยก เจี๊ยก เจี๊ยก มันร้องเรียกพวกมันมา
ครั้นพอถึงเวลา ออกเที่ยวหาผลไม้กิน

 

“ระบำนางช้าง”
นางช้างตัวหนึ่ง ออกไปเที่ยวเดิน
บนใยแมลงมุม เล่นจนเพลิดเพลิน
มันเห็นเป็นการ สนุกเหลือใจ
มันจึงร้องเรียกให้ นางช้างอีกตัวหนึ่งขึ้นมา
นางช้างสองตัว........................ฯลฯ
นางช้างสามตัว........................ฯลฯ
นางช้างสี่ตัว............................ฯลฯ

 

“แมลงเกาะกระต่าย”
มีแมลงตัวหนึ่ง เกาะอยู่บนจมูกกระต่าย มันจึงปัด มันจึงปัด แมลงก็บินหนีไป

 

“แมลงวัน แมลงหวี่”
แมลงวัน แมลงหวี่ แมลงหวี่ แมลงวัน ยุง ยุง ยุง เพราะมันตีกันแมลงวัน แมลงหวี่

 

“ม้า”
ม้าวิ่งกรับกรับ เดี๋ยวเดียวลับตาเราไป
ม้าวิ่งเร็วไว เร็วทันใดควบกรับกรับกรับ
ม้าวิ่งเร็วรี่ ดูซิหายไป ม้าวิ่งไวควบกรับๆๆ

 

“ไก่โต้ง”
ไก่โต้งขันโอ้ก อิ โอ้ก (ซ้ำ)
ตัวเมียไข่ตก กระโต๊ก กระต๊าก (ซ้ำ)
ออกไข่สบายใจมาก (ซ้ำ)
กระโต๊ก กระต๊าก กระต๊าก กระโต๊ก (ซ้ำ)

 

“ล่องเรือ”
ล่องเรือไปตามธารา เห็นหอยปูปลา แหวกว่ายเวียนวน พวกลูกเสือมากันหลายคน (ซ้ำ) เห็นลูกเสือ 3..... คนเอาก้นชนกัน

 

“คุณไม่รักทำไมไม่บอก”
คุณไม่รักทำไมไม่บอก (ปั่นแปะๆ) มาลวงมาหลอกกันเล่นทำไม (เป่ายิ่งฉุบ ๆ )
โอ้คนหลายใจ (อ้อเลาะๆ) ฉันทนไม่ไหวแน่ๆ (โอ๊ยเสียวๆ)

 

“รอรัก”
ก ไก่ มันอยู่ที่แก้ม ป.ปลา มันอยู่ที่ปาก ต.เต่ามันอยู่ที่ตา ส่วน ม.ม้ามันอยู่ที่จมูก
ล.ลิงมันอยู่ที่ใหล่ ข.ใข่มันอยู่ที่แขน ร.รักสิมันขาดแคลน มี ฟ.แฟนไว้ในดวงใจ
ล้า ลา ลา ลา ลา ลา ลา (ซ้ำ)

 

“สุขกันเถอะเรา”
สุขกันเถอะเรา เศร้าไปทำไม
จับมือกันไว้ แล้วยักเอวยักไหล่
หมุนตัวกลับไป หมุนตัวกลับมา
อย่ามัวรอช้า เปลี่ยนคู่มาเร็วไว

 

“ฟ้าลั่น”
แน่ะดังฟ้าลั่น แน่ะดังฟ้าลั่น
ได้ยินไหม ได้ยินไหม
เสียงฝนตกดังเปาะแปะ เสียงฝนตกดังเปาะแปะ
เราเปียกปอน เราเปียกปอน

 

“เมื่อย”
เมื่อยไหมจ๊ะน้องจ๋า ต้องทำท่าอย่างนี้อย่างนี้
ทำแล้วสดชื่นดี (ซ้ำ) อย่างนี้ๆ ๆ สบายใจจัง

 

“ออกกำลัง”
ออกกำลังด้วยการร้องรำทำเพลง
ให้ครื้นเครงเสียงเพลงบรรเลงจับใจ
ร่ำร้องกันไปไม่มีหม่นหมองฤทัย
แล้วเราเพลินใจด้วยการร้องรำทำเพลง

 

“หากว่าเรากำลังสบาย”
หากว่าเรากำลังสบาย จงตบมือพลัน (ซ้ำ) หากพวกเรากำลังมีสุข หมดเรื่องทุกข์
ใดใดทุกสิ่ง มัวประวิงอะไรกันเล่า จงตบมือพลัน (ผงกหัว กระทืบเท้า ส่งเสียงดัง เปล่งเสียงไชโย ออกท่าทาง)

 

“หวานตา”
หวานตาหวานเพลง เรามาบรรเลงเป็นเพลงฮาวาย
สนุกจริงหนาไม่ว่าชายหญิง ระรื่นชื่นใจในวงฟ้อน

 

“ฮิปโป”
ฮิ๊บฮิ๊บโป โอ้โฮตัวมันใหญ่ (ซ้ำ) มันเดินอุ้ยอ้าย (ซ้ำ) ลาลันลา.......................

 

“ชุมนุมรอบกองไฟ”
โอ เมื่อมีไฟ ไฟ ไฟ ลุกขึ้นแดงจ้า พวกเราพร้อมหน้ากัน คืนวันนี้มีสุขปลดเปลื้องทุกข์ รับความสำราญ เธอกับฉันนั้นมาเล่นรอบกองไฟ
ไฟมันลุกมีความร้อนไม่อาทรความร้อนของไฟ ไฟจะลุกจะร้อนเพียงไหน สุขฤทัย
ร่วมวงเฮฮา (ซ้ำ)

 

“ความซื่อสัตย์”
ความซื่อสัตย์ เป็นสมบัติของคนดี
หากว่าใครไม่มี ชาตินี้เอาดีไม่ได้
มีความรู้ท่วมหัว เอาตัวไม่รอดถมไป
คดโกงแล้วใคร จะรับไว้ให้ร่วมการงาน

 

“ความเกรงใจ”
ความเกรงใจ เป็นสมบัติของผู้ดี
ลองตรองดูซี ทุกคนก็มีหัวใจ
เกิดเป็นคน ถ้าหากไม่เกรงใจใคร
คนนั้นไซร้ ไร้คุณธรรมประจำตน

 

“ลา”
ลาก่อนเพื่อนที่รัก ลาก่อนเพื่อนที่รัก ลาแล้ว ลาก่อน เราจะพบกันอีก เราจะพบ
กันอีก ลาก่อน ลาก่อน

 

“จากกัน”
ก่อนจะจากกันไป ขอฝากใจไว้กับทุกทุกท่าน (ซ้ำ) ถึงตัวไปใจนั้น ไม่แปรผันและห่างไกล แม้ว่าเราจากกันไม่ช้าพลันคงจะพบกันใหม่ ขอโชคดีมีชัยหมดทุกข์โรคภัยตลอดกาล

 

“ดุจบิดรมารดา”
รักชาติยอมสละแม้ชีวี รักเกียรติจงเจตน์พลีชีพได้ รักราชมุ่งภักดิ์รองบาท
รักศาสน์ ราญเศิกไซร้ เพื่อเกื้อพระศาสนา
อันสยามเป็นบ้านเกิดเมืองนอน ดุจบิดรมารดาเปรียบได้ ยามสุขสโมสรทุกเมื่อ
ยามศึกทุกข์ยากไร้ประหลาดเว้นฤาควร

 

“สามัคคีชุมนุม”
พวกเราเหล่ามาชุมนุม ต่างภูมิใจรักสมัครสมาน
ล้วนมิตรจิตชื่นบาน สราญเริงอยู่ทุกผู้ทุกนาม
(สร้อย) อันความกลมเกลียว กันเป็นใจเดียวประเสริฐศรี
ทุกสิ่งประสงค์จงใจ จักเสร็จสมได้ด้วยสามัคคี
กิจใดถ้าประสงค์มี ร่วมใจภักดีแด่พระจอมสยาม
พร้อมพรึบดังมือเดียวยาม ยากเย็นเห็นง่ายบ่หน่ายบ่วาง
(สร้อย).............
ที่หนักก็จักเบาคลาย ที่อันตรายขจัดขัดขวาง
ฉลองพระเดชบ่จาง กตเวทิคุณพระกรุณา
(สร้อย)..............
สามัคคีแหละล้ำเลิศ จักชูชาติเชิดพระศาสนา
สยามรัฐจักวัฒนา ปรากฏเกียรติฟุ้งเฟื่องกระเดื่องแดนดิน
(สร้อย).............


ที่มาครูสมชายคัดมาจาก : {getButton} $text={อ้างอิงที่มา} $icon={link} $color={red}
>>>TRY TO CHECK OUT , IF ANY ERROR FOUND. PLEASE LET ME KNOW BY COMMENT.
I'LL TRY MY LEVEL BEST TO FIX THE PROBLEM.
                                                                THANKS FOR VISITING thumariya.blogspot
Have a nice day!
-------------------------- -------------------------
>>>ลองตรวจสอบหากพบข้อผิดพลาด โปรดแจ้งให้เราทราบโดยแสดงความคิดเห็น
ฉันจะพยายามระดับของฉันให้ดีที่สุดเพื่อแก้ไขปัญหา
ขอบคุณสำหรับการเยี่ยมชม thumariya.blogspot
ขอให้เป็นวันที่ดี!

-------------------------- -------------------------

{fullWidth}

แสดงความคิดเห็น (0)
ใหม่กว่า เก่ากว่า